รีวิวหนัง Mosul โมซูล เรื่องราวของ คาวา ตำรวจน้อยประสบการณ์ที่หน่วยสวาทนิเนเวห์ช่วยชีวิตไว้ กลุ่มต่อต้านไอซิสกลุ่มสุดท้ายในเมืองโมซุล คาวาถูกเชิญชวนให้เข้าทีมภายใต้การนำทีมของ ผู้พันจาเซม เพื่อปฏิบัติภารกิจสุดท้ายที่เขาเองก็ไม่รู้ปลายทางของมัน  mosul 2020 โมซูล พากย์ไทย

แม้จะจั่วหัวขายของกันด้วยชื่อชั้นของโปรดิวเซอร์ที่กำลังมาแรงในขณะนี้อย่าง 2 ผู้กำกับพี่น้องตระกูลรุสโซ จากหนัง Avengers: Endgame (2019) ที่มีหนังหลายเรื่องให้ทำหน้าที่ป๋าดัน โดยก่อนหน้านี้ก็มีหนังอย่าง Extraction ที่มี คริส เฮมเวิร์ธ แสดงนำ และยังมาถ่ายทำในไทยจนเป็นที่ฮือฮาในโซเชียลบ้านเรามาแล้ว

และสำหรับ Mosul เรื่องนี้นั้น แม้จะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่คล้ายหนังแอ็กชันเอามันอย่าง Extraction แต่ก็มีกลิ่นอายหนังสงครามในอิรักที่ดูสมจริงอยู่มากกว่าด้วย อาจเพราะนี่เป็นการดัดแปลงหนังจากบทความชื่อ The Desperate Battle to Destroy ISIS ในนิตยสารรายสัปดาห์อย่าง The New Yorker ที่ว่าด้วยเลือดเนื้อชีวิตจริงของหน่วยสวาทนิเนเวห์ ที่ปฏิบัติการแลกชีวิตเพื่อทวงบ้านเกิดเมืองนอนอยู่ในเมืองโมซุลที่ถูกปกครองโดยกลุ่มก่อการร้ายไอซิสก็เป็นได้  ดูหนังใหม่

 

 

หนังที่เล่าด้วยภาษาอาหรับเรื่องนี้ เล่าเรื่องราวของกลุ่มคนผู้กล้าหาญกลุ่มหนึ่งที่พยายามต่อสู้เพื่อแย่งบ้านเกิด และครอบครัว รวมทั้งเมืองของพวกเขาจากการยึดครองของ ISIS กลุ่มก่อการร้ายที่โด่งดังที่สุดในยุคปัจจุบัน ตัวเอกของเรื่องเป็นตำรวจผู้อ่อนประสบการณ์ชื่อ Kawa (Adam Bessa จาก Extraction (2019)) ที่ได้รับการช่วยชีวิตจากหน่วยสวาทนิเนเวห์แล้วเข้าร่วมกลุ่มกับกองทหารเล็ก ๆ ที่เป็นสหายร่วมรบด้วยกันสิบนาย ภายใต้การนำของผู้พันจาเซม (Suhail Dabbach จาก The Hurt Locker (2008)) ทั้งหมดตั้งปฏิบัติการพร้อมสู้ตายแบบกองโจร วางแผนจะโต้กลับ และมุ่งมั่นที่จะทำลายฐานทัพของข้าศึก หนังใหม่

รีวิวหนัง Mosul โมซูล

ชื่อเรื่อง โมซูล เป็นนครในภาคเหนือของประเทศอิรัก (หรืออีกชื่อคือ อัลเมาศิล) เป็นฉากหลังของเรื่องนี้ที่ถูกกลุ่มไอซิสยึดครองมาก่อน (ชื่อเรียกไอซิสในเรื่องจะเป็นดาอิช) และถูกนำมาสร้างเป็นหนังที่สร้างโดยอิงจากเรื่องจริงของเหตุการณ์ช่วงสุดท้ายของสงครามกวาดล้างไอซิสที่มีหลายประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง จนทำให้ไอซิสต้องถอยร่นออกไป  Mosul 2020 netflix

หนังเปิดเรื่องมาท่ามกลางดงกระสุนที่กลุ่มไอซิสผลาญดินปืนใส่กลุ่มตำรวจของเมืองเล่นจนหูดับตับไหม้ แค่ฉากนี้ก็เปิดโสตประสาทผู้ชมให้ตื่นได้อย่างดี ว่างานนี้อาจได้ตามแอ็กชันกันรัว ๆ แบบไม่ต้องเกริ่นความเข้าใจอะไรมากมาย และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะผู้ชมแทบจะเข้าใจหัวอกตัวละครนำอย่าง คาวา ได้อย่างกับอยู่ร่วมสถานการณ์เดียวกัน

 

รีวิวหนัง Mosul โมซูล

 

เนื่องจากหลังควันกระสุนเริ่มจาง พระเอกของเราก็ถูกชักชวนร่วมกลุ่มสวาทที่มาช่วยเหลืออย่างงุนงง แม้ทุกอย่างจะเกิดขึ้นไวมากจนดูประหลาด แต่ผู้กำกับก็ฉลาดในการหย่อนรายละเอียดบทสนทนาให้ดูน่าเชื่อได้ว่านี่คือการคัดคนเข้าหน่วยจริง ๆ อันนี้โชว์สกิลการเขียนบทที่ช่ำชองของคาร์นาฮานได้อย่างดี รีวิวหนังน่าดู

รีวิวหนัง Mosul โมซูล น่าดู

แต่ก็ยังไม่จบสิ้นซะทีเดียวนัก โดยมีกลุ่มกองกำลังเล็กๆ ที่ใส่ชุดหน่วยสวาทของอิรักกำลังตามไล่ล่าไอซิสพวกนี้ เป็นภารกิจที่ไม่เปิดเผยว่าจุดประสงค์คืออะไร และเป้าหมายที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ ตัวเรื่องจะเล่าผ่านมุมมองของ “คาวา” ตำรวจหนุ่มอายุ 21 ปีที่พึ่งเข้ามาทำงาน แต่กลับถูกปิดล้อมโดยไอซิสจนเกือบสิ้นชีพ แต่เขาได้รับการช่วยเหลือจากกองกำลังเล็กๆ หน่วยนี้ และเอาเขาเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมปฏิบัติภารกิจนี้ด้วย โดยที่คาวาเองก็สงสัยในจุดประสงค์ที่ซ่อนเร้นไว้ของกลุ่มนี้เช่นกัน  mosul พากย์ไทย

หลังจากนั้นเราก็แทบจะถูกจับโยนถูลู่ถูกังไปกับรถฮัมวี่ และการเดินแถวยุทธวิธีโดยไร้คำอธิบายใด ๆ ตลอดร่วม 1 วันเต็ม ๆ ทั้งนี้เป็นความตั้งใจของผู้กำกับอีกนั่นล่ะที่จะให้เราสงสัยติดตามรอคอยว่าภารกิจของกลุ่มสวาทนี้คืออะไรกันแน่ เพราะแม้คาวาจะถามครอบครัวใหม่ของเขาสักกี่ครั้ง (เกือบค่อนเรื่อง) สิ่งที่ได้มาก็คือความเงียบ โดยหนังใช้คำอธิบายที่น่าเชื่อถือว่าพระเอกยังไม่ได้รับการยอมรับว่าไม่ใช่สายของไอซิสจริง ๆ

 

รีวิวหนัง Mosul โมซูล

 

รีวิวหนัง Mosul โมซูล หนังสงคราม

แต่ก็นั่นล่ะ ท่ามกลางความอยากรู้ของเรา เมื่อนานเข้าก็เริ่มเป็นความอิหยังวะขึ้นทุกที เพราะการกระทำของกลุ่มสวาทนั้นชวนงงไม่ใช่น้อย เช่นสำรวจหาห้องที่มีทีวีเพื่อนั่งดูละครน้ำเน่าแย่งสามีกัน? หรือจะความไม่เป็นมิตรแบบแปลก ๆ ที่มอบให้กับสหายรบฝั่งเดียวกันอื่น ๆ เช่นกองกำลังทหารอิหร่าน หรือตำรวจประจำเมือง เป็นต้น แน่นอนทุกอย่างมีคำอธิบายของมัน แต่น่าเสียดายว่ากว่าหนังจะประกอบร่างให้เรายอมรับได้ เราก็เอียงไปทางไม่เชื่อหนังไปเสียส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นดาบสองคมในการเลือกวิธีเล่าเช่นนี้  หนังใหม่

นอกจากเหตุผลลึกลับของกลุ่มแล้ว หนังยังมอบฉากสถานการณ์ที่ชวนถกเถียงตั้งคำถามในหลาย ๆ ครั้ง ถึงความว่างเปล่า และมูลค่าที่ต้องแลกไปเพื่อเป้าหมายที่เราก็ไม่รู้ ทั้งฉากหยุดช่วยเหลือเด็กชาย 2 คนที่เพิ่งสูญเสียแม่ไป โดยให้เลือกทิ้งศพแม่ไว้แล้วรอดตายหรือจะอยู่แบบความหวังริบหรี่ หรือจะฉากที่ยิงตอบโต้กับไอซิสจนเพื่อนฝั่งตัวเองถูกลูกหลง และอีกหลายฉาก ซึ่งสิ่งที่ต้องแลกไปก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนเราก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ไอ้เป้าหมายภารกิจนี้มันยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันเชียว  Mosul Movie

ซึ่งตรงนี้ขอบอกไว้ว่าเมื่อมันเฉลยมีโอกาสทั้ง 2 แบบที่เราจะรู้สึก คือ แค่นี้เลยเหรอ? มันยิ่งใหญ่ล่ะ แต่ดูเล่นใหญ่มาทั้งเรื่องเพื่อแบบนี้อ่ะเหรอ หรืออีกแบบคือคุณอาจยอมรับว่ามันเป็นเพียงภาพสะท้อนนามธรรม และคอนเซ็ปต์ของหนังที่มันใหญ่เกินตัวมนุษย์ หรือตัวละครไปแล้วจริง ๆ และบทหนังก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม

 

รีวิวหนัง Mosul โมซูล

 

นี่เป็นหนังสงครามกลางเมืองที่เก็บรายละเอียดการสู้รบกับไอซิสได้สมจริงมาก ซึ่งเป็นสงครามยุคใหม่ที่มีหลายสิ่งหลายอย่างแตกต่างออกไปจากที่เคยเห็นกันมาก่อน อย่างการออกอากาศวิทยุชวนเชื่อถึงรัฐอิสลามที่ได้ยินแทรกมาหลายครั้ง กับดักของไอซิสที่มีกลลวงพรางให้อีกฝ่ายติดกับได้อย่างไม่คาดคิด หรือโดรนติดระเบิดที่บินมาถล่มแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง  ดูหนังใหม่

พร้อมฝ่ายตัวเอกที่งัดกลยุทธวิธีการสู้รบกับไอซิสในแบบของตำรวจมาใช้ในสงครามกลางเมืองแห่งนี้ที่มีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อตัวประกันอยู่เรื่อยๆ ตลอดทาง หลายอย่างในเรื่องนี้ถือว่าเป็นการสู้รบแบบใหม่ที่ตัวเรื่องทำออกมาได้ดีมาก เรียกว่าสมจริงกว่าหนังสงครามใหญ่ๆ ที่เห็นโดยทั่วไปด้วยซ้ำ แต่สเกลของฉากสู้รบจะแค่วงเล็กๆ มีเป็นระยะๆ กับการตามกำจัดไอซิสไปเรื่อยๆ ในเมืองจนถึงจุดหมายปลายทาง

ซึ่งถือว่าเป็นความลับสำคัญของเรื่องที่ตัวเอกคาวาในเรื่องกังขาอยู่ตลอดเวลาว่า หน่วยสวาทนี้เป็นหน่วยตำรวจจริงหรือไม่? ซึ่งตัวเรื่องก็ทำให้คนดูสงสัยเช่นกันว่าจริงหรือเท็จ จากความคลุมเครือที่ดูแล้วน่าสงสัยอยู่ตลอดเวลา การทำงานหลายอย่างที่ผิดแปลกออกไปจากการเป็นหน่วยสวาท

แถมยังพยายามปิดบังตัวตนไม่ให้ใครรู้ว่า ซึ่งในเรื่องช่วงเวลานั้นทุกคนเข้าใจว่าหน่วยสวาทตายหมดแล้ว แต่ทำไมหน่วยนี้กลับยังอยู่ และยังพยายามทำภารกิจลึกลับที่เสี่ยงตายบุกเข้าหาใจกลางกลุ่มไอซิสที่กำลังยึดเมืองส่วนสุดท้ายอยู่ในตอนนี้  mosul 2020 HD

 

 

หนังสงครามที่สร้างมาจากเรื่องจริง

ตัวหนังเดินเรื่องสั้นๆ แค่วันเดียวจบ และตลอดทางก็ใส่ฉากสู้รบมาเรื่อยๆ พร้อมกับตัวละครในหน่วยที่ค่อยๆ ตายลงทีละคน แต่ก่อนหน้านั้นก็จะแทรกเรื่องราวในทีมของแต่ละคนมาทีละนิดให้ตัวเอกคาวาค่อยๆ ได้รู้จักว่าแต่ละคนเป็นใคร และตัวคาวาเองก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากตำรวจหนุ่มผู้กังขากับภารกิจนี้ กลายมาเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรอีกแล้วกับเรื่องต่างๆ เมื่อเขาต้องผ่านความโหดร้ายของสงครามที่ค่อยๆ กดดันให้เขาต้องระเบิดอารมณ์ดิบออกมา และกลายเป็นคนละคนกับตอนต้นเรื่องไปเลย ในอีกมุมหนึ่งตัวคาวาเองก็ค่อยๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ตัวเองก็กังขานี้ไปด้วยเช่นกัน

ส่วนตัวของผู้รีวิวแล้ว เข้าใจคอนเซ็ปต์ดีเลย คิดว่ามันเจ๋งมาก ๆ ด้วยล่ะ แต่ในห้วงเดียวกันก็รู้สึกไม่ค่อยอินกับคำตอบนัก และเมื่อนึกหาสาเหตุ ก็เพราะลีลาท่าทีปกปิดความลับยิ่งใหญ่ที่ผ่านมาทั้งเรื่องนั่นล่ะ ว่ามันบอกไม่ได้เลยจริงดิ? หรือแบบฉากสุดท้ายที่เล่นใหญ่เวอร์มาก ๆ มันต้องทำขนาดนั้นเลยจริงดิ? แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ชื่นชมว่าหนังขยายคติที่อยากสื่อออกมาได้น่าติดตาม และน่าสนใจทีเดียว

ข้อติงอีกอย่างที่ไม่รู้จะสปอยล์หรือเปล่า คือหนังใช้วิธีการให้ผู้ชมจดจำตัวละครจำนวนมากด้วยการให้ฉากไหนที่ตัวละครนั้นจะสำคัญ เราจะได้ยินชื่อคนนั้น ๆ ถี่หลาย ๆ ครั้ง และเชื่อได้เลยว่าอีกไม่นานจะเกิดเรื่องบางอย่างกับตัวละครนั้นแน่ ๆ ซึ่งว่าไปมันก็ฉลาดในการเล่าด้วยเวลาจำกัด แต่พอใช้หลายครั้งเข้ามันก็เริ่มเกร่อเกินไปนั่นเอง หนังใหม่

 

 

นอกจากตัวเอกคาวาแล้ว อีกตัวละครที่สำคัญควบคู่กันไปคือ “จาเซม” ที่เป็นหัวหน้าหน่วยนี้ และเป็นเหมือนพ่อของทุกคน ซึ่งตัวละครนี้ดูเป็นคนดีในหลายๆ ครั้ง อย่างการช่วยเด็กกำพร้าที่พบเจอระหว่างทาง และหาครอบครัวใหม่ให้เด็ก แต่ในบางครั้งก็มีความคลุมเครือที่ปกปิดภารกิจซ่อนไว้ตลอดเวลา จนทำให้คนดูไม่ไว้ใจว่าตกลงเขาดีหรือร้ายกันแน่ ดูหนังใหม่

ถือเป็นหนังสงครามสเกลเล็กที่แปลกตา มีฉากสู้รบกับไอซิสที่เก็บรายละเอียดมาได้สมจริง ตัวเรื่องมีฉากสู้รบเป็นระยะๆ ที่ให้อารมณ์ระทึกเหมือนอยู่ในดงสงครามที่อันตรายตลอดทาง พร้อมกับมีดราม่าเล็กๆ แทรกคั่นมาพร้อมกับปกปิดจุดสำคัญของภารกิจลับในเรื่อง ที่ช่วยให้คนดูสงสัยติดตาม  mosul 2020 เต็มเรื่อง

เน้นความสมจริงขนาดว่า หนังเลือกที่จะให้ตัวละครพูดภาษาอิรักตลอดเรื่องจริง ๆ แบบไม่สน ไม่เสียดายเลยว่าหนังอาจขายยากขึ้นในอเมริกาที่ผู้ชมไม่ชอบอ่านซับ ซึ่งเป็นมูลค่าที่ต้องยอมแลกมาเพื่อความเชื่อแบบฝังเนื้อของผู้ชมว่ากำลังดูเรื่องจริง และนั่นก็ยังพ่วงมาด้วยวิธีการถ่ายทำแบบแฮนด์เฮลด์เกือบทั้งเรื่อง ผสมกับการกระชากซูมแบบหนังสารคดีที่ถึงลูกถึงคนเหมือนผู้ชมไปวิ่งถือปืนข้างกล้องนักข่าวสงครามอย่างไรอย่างนั้น

 

 

ใครที่ชอบหนังแนวสงครามความขัดแย้งแนะนำลองรับชมดูครับ

สำหรับการเล่าเรื่อง ก็ต้องบอกว่า ผลงานการกำกับครั้งแรกของมือเขียนบทอย่าง แมตธิว ไมเคิล คาร์นาฮาน ที่เคยฝากฝีไม้ลายมือในหนังสงครามตะวันออกกลางอย่าง The Kingdom (2007) ของผู้กำกับ ปีเตอร์ เบิร์ก หรือหนังสงครามมวลมหาประชาซอมบี้อย่าง World War Z ที่มี แบรด พิตต์ แสดงนำ ก็สามารถผสมผสานเรื่องจริงที่มีดรามาติกมากเหลือล้นผสมเรื่องแต่งที่เข้มข้น และชวนตีความได้อย่างน่าสนใจ

โดยสรุป นี่เป็นหนังสงครามที่มีการเรียงร้อยเรื่องราวหลายแง่มุมที่ชวนถกเถียงมากไปกว่าแค่ความขัดแย้งหรือความแค้น มีฉากแอ็กชันที่ดี ออกแบบบทสนทนาที่ดี คิดมาเยอะ ดีไม่ดีคิดระหว่างทางมาเยอะเกินไปจนปลายทางเริ่มไม่ตอบโจทย์เสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ดีหนังเรื่องนี้ดูสนุกอยู่ไม่น้อย ดูผลาญเวลาได้สบายครับ MOZUL รีวิว

แม้จะเป็นเรื่องแรกแต่ต้องบอกว่าผลงานออกมาดีพอสมควรเลย เป็นหนังแนวที่สะท้อนถึงความโหดร้ายของสงครามต่อชีวิตผู้คน ทั้งชีวิตของประชาชนทั่วไป และเหล่าทหาร เหมือนหนังสามารถไปได้สุดกว่านี้แต่ยังไปไม่ถึง สำหรับใครที่หวังฉากแอ็กชันสะบั้นหั่นแหลก เรื่องนี้มีให้เพียงกล้อมแกล้มเพื่อขับเคลื่อนดราม่าเท่านั้น นักแสดงแต่ละคนแสดงดีมาก เป็นหนังที่สวยมากๆ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

เป็นหนังแนวที่สะท้อนถึงความโหดร้ายของสงครามต่อชีวิตผู้คน ทั้งชีวิตของประชาชนทั่วไป และเหล่าทหาร สำหรับใครที่หวังฉากแอ็กชันสะบั้นหั่นแหลก เรื่องนี้มีให้เพียงกล้อมแกล้มเพื่อขับเคลื่อนดราม่าเท่านั้น นักแสดงแต่ละคนแสดงดีมาก เป็นหนังที่สวยมากๆ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว แนะนำให้ดูครับ  รีวิวหนังสงคราม

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *