รีวิวซีรี่ส์ Man vs Bee ซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ตอนละ 20 นาที แบบดูยาว ๆ 9 ตอนจบ ที่สามารถดูเพลิน ๆ ไหล ๆ แป๊บเดียวก็จบแล้ว จุดสนใจของเรื่องนี้อยู่ตรงเป็นผลงานที่ห่างหายหน้าจอไปนานของ โรแวน แอตคินสัน (Rowan Atkinson) ที่โด่งดังจากการสวมบท มิสเตอร์บีน (Mr. Bean) ตัวละครตลกท่าทางเล่นหน้าตายอดนิยมจนเป็นไอคอนในระดับโลก ซึ่งผลงานหลัง ๆ ที่เราพอจำได้คือต้องย้อนไปถึงหนังเรื่อง ‘Johnny English Strikes Again’ (2018) กันเลยทีเดียว  Man vs Bee

และสำหรับโปรเจกต์หวนคืนครั้งนี้เขาจึงเข้าคู่กับมือเขียนบท วิล เดวีส์ (Will Davies) ซึ่งเคยเขียนบทให้แอตคินสันได้หลุดพ้นจากการเป็นคุณบีนมาเป็นสายลับจอห์นนีถึง 3 ภาคมาแล้ว โดยมอบหมายให้ผู้กำกับ เดวิด เคอร์ (David Kerr) ที่ร่วมงานกันใน ‘Johnny English Strikes Again’ มาทำหน้าที่คุมการเล่าเรื่อง ดูหนัง

 

 

เหมือนว่าโจทย์ของทีมสร้างคือต้องใช้จุดเด่นในการเล่นตลกแบบแอตคินสัน แต่ต้องสลัดภาพของมิสเตอร์บีนให้ได้ด้วย บทสรุปจึงออกมาที่การสร้างตัวละครใหม่ที่ชื่อ เทรเวอร์ ชายซื่อ ๆ ที่ล้มเหลวในการเป็นผู้นำครอบครัว แต่ได้โอกาสในการกอบกู้ศรัทธาของภรรยาและลูกสาวคืนมา Man vs Bee Netflix

รีวิวซีรี่ส์ Man vs Bee

ด้วยการหางานใหม่เป็นผู้รับดูแลเฝ้าบ้านหรูที่ต้องทำหน้าที่ครั้งแรกให้ลุล่วงให้ได้ มันจึงมีสิ่งที่ต่างจากบุคลิกของพวกขี้แพ้แบบไม่มีแต้มต่อที่สร้างความมั่นใจแปลก ๆ อย่างในมิสเตอร์บีนที่ดวงแข็งทำอะไรพลาดก็กลายเป็นดี หรือสายลับจอห์นนีที่มีอุปกรณ์สายลับไฮเทคกับการพกดวงมาแบบสุด ๆ และทำให้เทรเวอร์ยอดมนุษย์ดวงซวยนี้เป็นตัวละครใหม่ ๆ ที่แอตคินสันจะได้ลองนำเสนอดู

และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือการจะต้องดึงความโดดเด่นในการใช้ท่าทางเล่าเรื่องแทนคำพูดของแอตคินสันออกมา ก็ทำให้ทีมสร้างคิดสถานการณ์ประหลาดที่คนกับสัตว์ (ในที่นี้คือผึ้งกับน้องหมา) ต้องมาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เมื่อไม่มีคนอื่นให้ต้องสนทนาด้วยมากนัก พลังการแสดงของแอตคินสันก็จะเฉิดฉายได้เต็ม ๆ ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ทีมสร้างคิดมาได้ฉลาดทีเดียว ที่จะช่วยหนีข้อครหาว่าย่ำเท้าอยู่ในบทบาทเดิม ๆ ของแอตคินสันเอง

จุดที่ดีคือแม้จะมีพลอตที่ไม่ซับซ้อนอะไรมากแต่หนังก็สร้างความสงสัยให้คนดูอยากติดตามด้วย โดยเปิดเรื่องจากฉากในศาลที่ทำให้เห็นว่าเทรเวอร์กำลังเผชิญชะตากรรมลำบากในฐานะจำเลย จนชวนให้สงสัยว่าเขาไปทำอะไรร้ายแรงมา แล้วจึงค่อย ๆ ย้อนหลังเรื่องราวทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้ดูมีลีลาการเล่าเรื่องมากขึ้น ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวซีรี่ส์ Man vs Bee

 

ซีรีส์แนวนี้จะสำเร็จหรือไม่ก็อยู่ตรงที่จะประเคนสถานการณ์ใส่ตัวละครได้มากขนาดไหน ถี่ขนาดไหน และดูยุ่งยากขนาดไหน ยิ่งวอดวายมากเท่าใด เรื่องราวก็ยิ่งสนุกขึ้นเท่านั้น และทีมสร้างก็ทำในจุดนี้ได้ดีช่วงเวลาแค่ไม่กี่วันในเรื่อง ตัวละครต้องเจอสารพัดความวายป่วงแบบไม่เว้นว่างกันเลยทีเดียว Man vs Bee HD

รีวิวซีรี่ส์ Man vs Bee ซีรี่ส์น่าดู

ทว่าจุดที่น่าเสียดายคือถึงปริมาณจะมาก แต่คุณภาพของมุกหรือสถานการณ์ที่ใส่เข้ามาก็ต้องดีด้วยถึงจะสมบูรณ์แบบ ต้องยอมรับว่าแม้มุกส่วนใหญ่จะเล่นกับข้าวของไฮเทคที่อยู่ในบ้านหรูเป็นหลัก เพื่อให้เทรเวอร์ที่เป็นคนยุคบูมเมอร์ที่ไม่ถนัดเทคโนโลยีแก้ปัญหาไม่ได้

แต่ว่าสุดท้ายเนื้อในของมุกก็ยังเป็นมุกแบบคลาสสิกเดิม ๆ ประมาณแมวกัดกับหนูเช่นใน ‘Tom and Jerry’ ซึ่งแค่เปิดแต่ละมุกมาก็พอเดาผลลัพธ์กันได้แล้ว มันเลยขาดความรู้สึกเกินคาดซึ่งเป็นสูตรสำเร็จหนึ่งในศิลปะการสร้างอารมณ์ขัน รีวิวหนังน่าดู

ปัญหาอีกอย่างที่เราไม่ค่อยรู้สึกกับผลงานก่อนหน้าของแอตคินสัน คือความอยากเอาใจช่วยที่หดหายไปมาก ตัวละครอย่างเทรเวอร์เข้าข่ายสร้างปัญหาให้ตัวเอง หรือจะบอกเรื่องราวมันแย่ก็เพราะความโง่ไม่รอบคอบของเขาเองมากเสียกว่าว่าโชคชะตากลั่นแกล้งอย่างที่เกิดในมิสเตอร์บีน

 

รีวิวซีรี่ส์ Man vs Bee

รีวิวซีรี่ส์ Man vs Bee ซีรี่ส์ตลกๆ

เทียบกันคือระหว่างคนที่วิ่งเข้าไปเก็บหมวกที่ปลิวไปในอาคารแล้วดันเกิดไฟไหม้พอดี เราก็อยากเอาใจช่วยมากกว่าคนที่เห็นไฟไหม้แล้ววิ่งเข้าใส่เองเพราะดูน่าสนุกอยู่แล้ว นี่ก็เป็นอะไรที่คล้ายกันและทำให้เข้าใจง่ายว่าทำไมเรารักมิสเตอร์บีน แต่อาจไม่รู้สึกชอบเทรเวอร์เท่าไหร่นัก

และจากจุดนี้ก็น่าสนใจดีเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นผึ้ง (Bee) ที่เป็นคู่ปรับกับแอตคินสันในครั้งนี้ ถ้ามองว่าเขากำลังสู้รบปรบมือกับภาพจำที่ก้าวไม่พ้นสักที มันก็อาจเป็นการเล่นคำว่าเขากำลังสู้กับนายบีน (Bean) ที่เสียงคล้ายกันอยู่ก็ได้ Man vs Bee พากย์ไทย

หากมองข้ามเรื่องของการเป็นซีรีส์ตลกที่ถือว่าทำได้ผ่านมาตรฐานแต่อาจไม่ได้น่าประทับใจนักไป แล้วมองไปที่แอตคินสันเป็นศูนย์กลาง ซีรีส์เรื่องนี้ก็เหมือนการเปลือยความรู้สึกของเขาในวันที่ความนิยมหรือทักษะของเขาอาจไปไม่ทันกับโลกยุคใหม่เสียแล้ว เร็ว ๆ นี้เขาเพิ่งบ่นว่าการเล่นตลกในยุคนี้มันยากเพราะทุกอย่างเป็นประเด็นอ่อนไหวแตะต้องไม่ได้ ไปหมด

ถึงเราจะเห็นด้วยกับเรื่องความเท่าเทียมความหลากหลายต่าง ๆ แต่ในมุมของวงการตลกก็ต้องยอมรับว่าไอ้การล้อเลียนหรืออาจเข้าขั้นเหยียดด้วยนั้นมันคือสูตรสำเร็จของความขำขันในภาษาสากล ตลกบางคนยังต้องหันไปล้อเลียนตัวเองแทนทั้งที่รู้ว่าไม่ตลกเท่าที่ล้อคนอื่นแต่ก็เห็นได้บ่อยครั้งในยุคนี้ ดูหนังออนไลน์

 

 

อีกทั้งสื่อยุคนี้ก็รวดเร็วฉาบฉวยขึ้นคนไม่อยากดูรายการตลกยาว ๆ เป็นครึ่งชั่วโมงแล้วในเมื่อคลิปสั้น ๆ ในติ๊กต็อกมันก็ฮาได้แล้ว ตอนที่ดูซีรีส์นี้ก็มีคำถามเหมือนกันว่ามันตัดรวมเป็นหนังยาวเรื่องหนึ่งได้เลยนะทำไมต้องมาหั่นหลายต่อนขนาดนี้ แต่พอมองในแง่ที่ว่าคนดูฉาบฉวยขึ้นและถูกล่อลวงด้วยจำนวนตอนสั้น ๆ หลายตอนได้ดีกว่าหนังยาวเต็มเรื่อง มันก็เหมือนทีมสร้างเขาทำมันแบบเย้ยหยันโลกความจริงของการรับชมของคนยุคใหม่อยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน Man vs Bee เต็มเรื่อง

หนัง ‘Man vs. Bee’ ถ้ามองให้ลึกมันก็คือ ตลกยุคเก่า vs. โลกยุคใหม่ แอตคินสันที่ต้องสู้กับมุกตลกของคนรุ่นใหม่แบบ 9gag หรือมีมต่าง ๆ ก็ไม่ต่างกับเทรเวอร์ที่เจอกับบ้านไฮเทคแล้วไปไม่เป็นเหมือนกัน ถึงเขาจะมีประสบการณ์ดูแลบ้านตัวเองหลายสิบปีก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มองในแง่นี้เราก็แอบเชียร์แอตคินสันให้โลดแล่นต่อไปยาว ๆ เหมือนกัน ในฐานะที่เขาเป็นศิลปินตลกอาชีพ ไม่ใช่แค่คนที่ตลกแล้วอยู่ในคลิป 10 ล้านวิวที่เป็นกระแสอยู่ไม่ถึงเดือนแค่นั้น

ซีรีส์ Man Vs. Bee เป็นเรื่องของเทรเวอร์ชายหนุ่มที่หมกมุ่นกับผึ้งที่เข้ามาอยู่ในบ้าน ไม่ว่าทำอย่างไรมันก็รอดไปได้ทุกที เส้นเรื่องหลักโฟกัสที่การกำจัดเจ้าผึ้งตัวป่วน เส้นเรื่องรองคือภรรยาเก่ากับลูกสาว บทพูดไม่ค่อยมี จะเป็นการแสดงของโรแวน กับ ผึ้ง (CG) ซะเป็นส่วนใหญ่ ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กำลังดู Mr. Bean อยู่บ้างไม่มากก็น้อย ดูหนัง

 

แค่เห็นหน้านักแสดงนำก็การันตีความฮาแล้ว

ที่เหมือนกันก็คงจะเป็นเรื่องการทำเรื่องเล็ก ๆ ให้กลายเป็นความ Ship ระดับมหึมา ส่วนที่ต่างกันก็คงจะเป็นเสื้อผ้า ที่แต่ละชุดของเทรเวอร์สร้างความฮา เรียกเสียงหัวเราะ ฉีกแนวไปจาก Mr. Bean ที่ใส่ชุดสูทซะเป็นส่วนใหญ่ และความเป็นคนเนี้ยบเป๊ะไม่ค่อยมีในตัวเทรเวอร์ ดูหนังออนไลน์

Man Vs. Bee เป็นซีรีส์สไตล์ โรแวน แอตคินสัน เป็นเรื่องราวของการหมกมุ่นกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย จนเกิดเป็นหายนะ มีความคล้ายซีรีส์ Mr. Bean เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน บทพูดไม่ค่อยมี ที่มีก็ไม่ค่อยสำคัญ เน้นการแสดงมากกว่า ขำกับความไม่รู้เรื่องและความมีนิสัยเป็นเด็กของตัวละครหลัก ขณะเดียวกันก็หนักใจกับความวิบัติที่เกิดขึ้น

แต่ท้ายที่สุดบทสรุปมันคลายความกังวลใจทั้งหมดที่มี ใครชอบ Mr. Bean ก็น่าจะชอบเรื่องนี้ด้วยเนื้อเรื่องน่าสนใจเข้าถึงได้ ความสมเหตุสมผลไม่มี CG ยอดเยี่ยม ดีเทลของตัวผึ้งสุดยอดของความเสมือนจริง รับชมกันได้ทั้งครอบครัวฮายกแก๊ง ให้คะแนน 7.5/10

นอกจากเป็นซีรีส์ที่เหมาะจะรับชมกับครอบครัวในตอนบ่ายของวันหยุดแล้ว ยังนับเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ทำให้การรอสั่งกาแฟไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เพราะเป็นซีรีส์สั้น ๆ ตอนละ 10-20 นาทีเท่านั้น มี 9 ตอน แถมมีพากย์ไทย ลองรับชมกันได้ทาง Netflix จ้า  Man vs Bee ซับไทย

 

อย่าลืมไปติดตามรับชมกันได้เลยนะจ๊ะ

ซีรีส์เบาสมองที่ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ แต่ส่วนตัวก็เชียร์ให้ดู เพราะมันสั้นๆ แปบๆ จบ แล้วก็เป็นซีรีส์ที่มีความแปลกแตกต่างจากปกติใน Netflix มากมาย ยิ่งแฟนมิสเตอร์บีนนี่ยังไงก็ต้องดู ห้ามพลาดเลย แม้จะรู้สึกหงุดหงิดกับความงี่เง่าเกินเบอร์ของตัวละครอยู่ก็ตาม แต่ก็มีเรื่องราวสาระดีๆ แฝงอยู่ในเรื่องด้วยเช่นกันครับ Man vs Bee รีวิว

เป็นซีรีส์เบาสมองที่ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ แต่ส่วนตัวก็เชียร์ให้ดู เพราะมันสั้นๆ แปบๆ จบ แล้วก็เป็นซีรีส์ที่มีความแปลกแตกต่างจากปกติใน Netflix มากมาย ยิ่งแฟนมิสเตอร์บีนนี่ยังไงก็ต้องดู ห้ามพลาดเลยครับ และแนะนำให้ดูซับดีกว่าเพราะทั้งเรื่องแทบไม่พูดอะไรอยู่แล้ว เสียงพากย์ไทยขัดๆ กับเสียงจริงของนักแสดงด้วย

เรื่อง : Man Vs Bee (2022)
ประเภท : รายการทีวีคอมเมดี้จากอังกฤษ  รีวิวซีรี่ส์น่าดู
นักแสดง : โรแวน แอตคินสัน
ระยะเวลาการรับชม : 9 ตอน ตอนละ 10-20 นาที
ช่องทางการรับชม : Netflix พากย์ไทย
คะแนนจากผู้เขียน : 7.5/10
ระดับความเหมาะสม : 7+

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *